ทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีโลก WGP#1 สัญชาติไทย 100% พร้อมยกระดับเป็นสตาร์ทอัพระดับโลก เพื่อสร้างประโยชน์ชาติในหลายมิติ โดยเริ่มจากสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจทันที 450 ล้านบาท เดือนธันวาคมนี้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานโครงการฯ เห็นพ้อง “บิ๊กก้อง” ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และ “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญ-บัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีไทย นำร่องทำโครงการพัฒนากีฬายุคใหม่ โดยสร้างแบรนด์กีฬาไทยเจาะตลาดโลก วางแนวคิดเป็น “โมโตจีพีแห่งพื้นน้ำ” ขยายตัว 8-10 สนามทั่วโลก แต่ที่สำคัญต้องมาชิงชนะเลิศที่เมืองไทย ตอบโจทย์นโยบายรัฐ ที่ต้องการขยายการนำเข้าเม็ดเงินทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระดับ 1,000 ล้านบาท แบบยั่งยืน พร้อมจัดเชิดชูเกียรตินักกีฬา 2 ภารกิจ ทั้งช่วยเหลือวิกฤติน้ำท่วมภาคเหนือ และคว้า 7 แชมป์โลก ที่สหรัฐฯ
จากการแถลงข่าวร่วมกันของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน WGP#1 เพื่อสนับสนุนการพัฒนากีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญาและซอฟต์พาวเวอร์ ร่วมกับ นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 25 ปี การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ร่วมกันเปิดเผยว่า
“โครงการกีฬาเจ็ตสกี WGP#1 มีความพร้อมอย่างสูงที่จะเติบโตก้าวกระโดด เป็นสตาร์ทอัพระดับโลก สิ่งแรกที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน คือการสร้างประโยชน์ชาติไทย จากการนำเข้าทีมนักกีฬานานาชาติ เพื่อมาแข่งขันในทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 เจ็ตสกีเวิลด์คัพ 2024 ระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคมนี้ ที่มีความสำคัญเป็นสนามเจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะมีทีมนักกีฬาทั่วโลกกว่า 40 ชาติ เข้ามาเมืองไทยกว่า 3,000 คน และด้วยกีฬานี้มีค่าใช้จ่ายต่อหัวในการเดินทางทำการแข่งขันสูง เพราะต้องมีทั้งการขนส่งเรือแข่ง อุปกรณ์ต่างๆ กว่า 150,000 บาท (เฉลี่ยต่อคน) ทำให้จะสร้างเงินหมุนเวียน เฉพาะส่วนทีมนักกีฬากว่า 450 ล้านบาท
ในส่วนต่อไปนั้น WGP#1 เตรียมขยายฐานการเติบโตอย่างสูง เช่น รวบรวมกติกาสมาคมเจ็ตสกีนานาชาติ IJSBA สหรัฐอเมริกา ประกาศเป็นกติกา IJSBA-WGP#1 ของไทยที่จะใช้ไปทั่วโลก ขยายทัวร์นาเม้นท์ออกไป 8-10 สนามในทุกทวีป ไปสร้างความรู้จักเชื่อถือ เพื่อดึงดูดมาสนามสุดท้ายที่เมืองไทย ในอัตราที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเป้าหมายการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะเพิ่มจาก 450 ล้าน ไปแตะ 800 ล้านบาท ภายใน 2 ปีข้างหน้า ส่วนอีกเป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างคอนเท้นท์กีฬาไปเจาะตลาดแฟนกีฬาทั่วโลก เพิ่มจาก 250 ล้านคน เป็น 350 ล้านคนต่อปี ในปีหน้า อันเป็นกลยุทธ์การตลาดกีฬาที่สำคัญ เพราะชาติยุโรปทำมานานแล้ว ในการล่าเป้าหมายแฟนกีฬาโลก ขณะนี้หลายชาติในเอเชียก็เริ่มทำงานด้านนี้ โครงการนี้จึงต้องทำงานอย่างจริงจัง เพราะในที่สุดจะสร้างประโยชน์ชาติอีกหลายมิติ ทั้งภาวะการเป็นผู้นำโลก และอุตสาหกรรมกีฬาส่งออกที่เริ่มต้นแล้ว ฯลฯ”
โอกาสนี้ สมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ได้เชิญนักกีฬาที่สร้างประโยชน์ชาติใน 2 ภารกิจ มอบประกาศนียบัตร ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ นักกีฬาจิตอาสาช่วยวิกฤตน้ำท่วมภาคเหนือ และทีมชาติไทยชุด 2024 ที่ร่วมกันคว้า 7 แชมป์โลก ที่สหรัฐฯ โดยในส่วนช่วยภารกิจน้ำท่วมได้แก่ ทีมของ FKT CONCRETE, LIQUI MOLY JETSKI TEAM BY NAKORN, HOUSE OF BULLDOGS YAMAHA WAVERUNNER THAILAND, PUSAN SEADOO JET SKI TEAM NAKHONPATHOM, 777 PERFORMANCE BY JUMBO TUNER, G-FORCE POWERSPORTS PATTAYA, PTT LUBRICANTS GOLD DRAGON LET’S GO GROUP, YAMAHA WAVERUNNER THAILAND X REXSAC VERTEX BY 777 PERFORMANCE, YAMAHA HERO JET BANGKOK, GAZEBO JET RACING TEAM
และทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์โลก 2024 ที่สหรัฐอเมริกา ได้แก่ นายสุภทัต ฟูตระกูล รุ่น PRO-AM RUNABOUT 1100 OPEN, นายกษิดิศ ธีระประทีป รุ่น PRO-AM RUNABOUT SUPERSTOCK, นายอรรถพล คุณสา รุ่น PRO-AM VETERANS RUNABOUT LIMITED, นางสาวพริ้มรส คุณสา รุ่น WOMEN RUNABOUT 1100 STOCK, นายลวัณกร เมธานิธิกุล รุ่น NOVICE RUNABOUT 1100 STOCK, นายณัฐนันท์ กีนะพันธ์ ที่คว้าแชมป์ถึง 2 รุ่น ได้แก่ JUNIOR SKI 13-15 FOUR STROKE LITES และรุ่น JUNIOR SKI 13-15 STOCK
#เจ็ตสกีโลก WGP