สร้างมูลค่าเพิ่มจากหนังโคขุนโพนยางคำ สู่เครื่องหนังย้อมด้วยสีครามธรรมชาติ “แบรนด์เครื่องหนังโพนยางคำ”

จากเศษหนังที่เหลือจากกระบวนการผลิตโคเนื้อคุณภาพสูง ของสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพยางคำ จังหวัดสกลนคร หรือที่รู้จักในชื่อ Thai-French Beef เนื้อโคขุนโพนยางคำ ผลิตภัณฑ์ GI จังหวัดสกลนคร และการแข่งขันทางการตลาดหนังโค ของประเทศเพื่อนบ้านเอเชีย ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย ทำให้มูลค่าหนังโคในประเทศไทยมีมูลค่าต่ำลง ส่งผลให้โอกาสการส่งออกหนังวัวไปต่างปะเทศน้อยลง จากเดิมมูลค่าหนังโคสดกิโลกรัมละ 70 บาท ปัจจุบันราคาหนังโคในประเทศไทยอยู่ที่ราคา 10-15 บาท

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร นำโดย หัวหน้าโครงการวิจัย ดร.ประภากรณ์ แสงวิจิตร รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและวิเทศสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ได้คิดโครงการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มหนังโค โดยผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเชี่ยวชาญการย้อมสีครามธรรมชาติที่เป็นเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในปี 2564 จากการนำหนังโคขุนโพนยางคำ มาย้อมครามสีธรรมชาติภายใต้สภาวะการย้อมที่เหมาะสม และได้ออกแบบเครื่องหนังกระเป๋า และได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การย้อมหนังด้วยสีครามธรรมชาติ เทคนิคการตัดเย็บเครื่องหนังให้กับลูกหลานสมาชิกสหกรณ์โพนยางคำ จำนวน 30 ราย และได้เริ่มทำการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าเครื่องหนังเหล่านี้โดยศูนย์จำหน่ายหลักคือผ่านสหกรณ์โพนยางคำ สกลนคร และจำหน่ายผ่านออนไลน์ Facebook : เครื่องหนังย้อมคราม โพนยางคำ และ Instragram : pone_yangkham

ดร.ประภากรณ์ แสงวิจิตร หัวหน้าโครงการวิจัย เผยว่า “จุดเด่นของเครื่องหนังย้อมสีครามธรรมชาตินี้ มาจากองค์ความรู้ผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นเดิมของสกลนคร ที่มีฐานความรู้เรื่องการย้อมเย็นจากต้นคราม อย่างที่เราทราบกันในปัจจุบันสีครามจะมาจากสีครามธรรมชาติและครามสังเคราะห์ ในส่วนสีครามธรรมชาตินี้ตามสมัยโบราณจะนำเสื้อผ้ามาย้อมสีครามธรรมชาติ เพราะด้วยเป็นสีที่มีความคงทน เป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของโทนสีคราม ในจังหวัดสกลนครมีถ่ายทอดองค์ความรู้การปลูกต้นคราม การก่อหม้อ และการย้อมผ้าด้วยครามธรรมชาติกันมานาน การย้อมหนังก็เช่นกันเป็นการย้อมสีครามธรรมชาติบนหนังโคในสภาวะที่เหมาะสม จากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อการเตรียมน้ำย้อมครามที่จะสามารถย้อมเครื่องหนังให้ได้สีคราม”


“ความยากของงานนี้คือการที่ต้องปรับจาก การย้อมครามบนผ้ามาเป็นการย้อมหนังแทน และการศึกษาครั้งนี้นักวิจัยต้องกำหนดสภาวะที่ต้องใช้กระบวนการธรรมชาติทั้งหมดเพื่อการย้อมสีคราม ทีมนักวิจัยได้ใช้เวลาพอสมควรในการหาสภาวะที่เหมาะสมแล้วเป็นกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความเข้มของสีที่เปลี่ยนไปก็มาจากสภาวะความเป็นกรดเป็นด่าง งานวิจัยการย้อมหนังโค นี้ได้พัฒนารูปแบบการก่อหม้อย้อมคราม จากโบราณการย้อมผ้าครามต้องใช้เวลา 7-14 วัน ตั้งแต่การก่อหม้อจนได้สีครามและย้อมผ้าคราม พัฒนามาให้สามารถที่จะก่อหม้อเพียง 1 วัน ก็สามารถย้อมหนังโคได้ อีกทั้งเพื่อการควบคุมคุณภาพของสีคราม เราได้เพิ่มเติมกระบวนการง่ายๆ เพื่อการสังเกตลักษณะทางเคมีและกายภาพของสีคราม ด้วยการตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำย้อม (สูตรโบราณจะทำการทดสอบด้วยการชิมรสเค็มของน้ำย้อม)” ดร.ประภากรณ์ กล่าวปิดท้าย

Facebook: เครื่องหนังย้อมคราม โพนยางคำ
Instagram: pone_yangkham
Tel : 086 233 5457 หรือ 063 491 5324

“แม่บุญล้ำ” จับมือ “Thailand Culinary Academy” ยกระดับเครื่องปรุงไทยสู่สากล!! คว้ารางวัลอาหารระดับโลกจากเวที FHA FOOD & BEVERAGE 2025 ณ ประเทศสิงคโปร์
กุ้ยโจว เหมาไถ (Kweichow Moutai) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เชื่อมโยงวัฒนธรรมจีน–ไทยผ่านประวัติศาสตร์เครื่องดื่ม
NAC long® รีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ คว้าตัว พีพี กฤษฏ์ ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนแรก! พบกัน 21 กันยายน 2568 นี้ ณ ศูนย์การค้า เมกา บางนา
ยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี! Grand Asia Open 2025 Final คึกคัก แฟนการ์ดเกม One Piece และ Union Arena แห่ร่วมงานล้นหลาม “ปูเป้-ผักขม” ทึ่ง! วงการการ์ดเกมไทย ยกเป็นกิจกรรมต่อยอดสู่เวทีโลก
BEARHOUSE เติมเต็ม Passion ส่งต่อความสุขครั้งยิ่งใหญ่ ผ่านกิจกรรม “21st Passion Day”
สมาคมนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วางนโยบาย 6 ด้าน มุ่งสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนสู่อนาคตสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ททท. ชู “Health & Wellness” บุกตลาดโลก WTM London 2025 ยกระดับไทยสู่ Global Well-being Destination
ก.ท่องเที่ยวฯ – ททท. ปลุกกระแสไฮซีซั่น “Amazing Thailand Passport Privileges” แย้มรอยยิ้มจากไทย สู่หัวใจนักเดินทางทั่วโลก
BEARHOUSE & SUNSU เดินหน้าลุยต่อ “PASSION SPACE” พัฒนาคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนแพสชั่นสู่เส้นทางสายอาชีพ เพื่อก้าวสู่โลกแห่งการทำงานจริงอย่างมีประสิทธิภาพ